เจาะลึก Trek Madone 9.0 2018
สุดยอดเสือหมอบ ที่หลายคนซื้อไปลองปั่นแล้ว คอนเฟริม์ว่า ดีจริง จุดดี จุดเด่น อยู่ตรงไหน รายละเอียดส่วนประกอบมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันครับ
ประวัติเล็กๆน้อยๆ ของ Trek Madone
แต่เริ่มเดิมที่ Madone ไม่ได้เป็นรถแอร์โร่แบบในปัจจุบัน Madone พัฒนามจากคาร์บอนที่เป็นเทคโนโลยี่เฉพาะของ Trek คือ คาร์บอน OCLV (Optimum Compaction, Low Void) ที่ Trek บอกว่าเป็นคาร์บอนที่เบาที่สุด แข็งแรงที่สุด
ชื่อ Madone เริ่มใช้ในปี 2003 ตั้งขึ้นตามชื่อภูเขาที่ซ้อมโปรดของ Lance Armstrong ที่อยู่ทางตอนใต้ของ ฝรั่งเศษ Col de la Madone
Lance Armstrong ได้ใช้ Madone คว้าแชมป์ Tour de France และรายการอื่นๆได้มากมาย (ก่อนที่จะโดนยึดแชมป์คืนในภายหลัง) ทำให้นักปั่นทั่วทั้งโลกให้ความสนใจใน Trek และ Madone
ต่อมาTrek ก็ได้มีการพัฒนา Madone ในฐานะรถตัวท็อป ตัวหลักตัวเดียวมาตลอด โดยในปี 2008 Trek ก็ได้ออก New Madone ที่เป็น modern race bike อย่างแท้จริง โดยมีเทคโนโลยี่ใหม่ล่าสุดในสมัยนั้นครบถ้วน ทั้ง กะโหลก Pressfit 90mm, ท่อคอ tapered แบบหล่อชิ้นเดียวกับตัวเฟรม, ท่อ chainstays แบบ อสมมาตร (asymmetric) อีกทั้งยังได้ออกแบบ หลักอานสวม (semi-integrated seatmast) ที่ได้ความ stiff ในขณะที่น้ำหนักลดลง
ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยมากมาย ทำให้ Madone ในตอนนั้นมีการพัฒนาความ Stiff ต่อน้ำหนักตัว (Stiffness to weight ratio) แบบก้าวกระโดด
ในช่วงปี 2010 วงการผู้ผลิตจักรยานจะมุ่งเน้นพัฒนาที่การลดน้ำหนัก และเพิ่มความ Stiif จนกระทั่ง ในช่วงปี 2012 จึงเริ่มเข้าสู่การพัฒนาสิ่งใหม่ที่เรียกว่า AeroDynamic (อากาศพลศาสตร์) หรือภาษาชาวบ้านว่าความลู่ลม
Trek Madone เองก็เป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนาจักรยานแอร์โร่ในสมัยนั้น Madone 7 เพิ่มความแอร์โร่ ด้วยท่อทรงรีปลายตัด Kammtail Virtual Foil (KVF) , การหลบเบรคหลังลงใต้กะโหลก รวมทั้งมีการเริ่มใช้เบรคแบบไดเร็คเม้าท์ที่แรงเบรคดีกว่า จนเป็นที่นิยมในเฟรมปัจจุบันหลายๆรุ่น ทำให้ Trek Madone 7 น้ำหนักเบา, Stiff และ Aerodynamic สูง
จนกระทั่งในปี 2015 Trek เปิดตัวรถซีรี่ใหม่ Emonda ที่เน้นที่ความเบาเป็นหลัก มีน้ำหนักเพียง 690g ที่เฟรมไซส์ 56 และทำรถประกอบทั้งคันที่น้ำหนัก 4.6 กิโลได้
Trek จึงเริ่มพัฒนา Madone โดยมุ่งเน้นสู่ความเป็นสุดยอดจักรยาน Aero road bike
ในปี 2016 Trek เปิดตัว Madone 9 รถแอร์โร่แท้ๆตัวแรกของ Trek ที่ใส่เทคโนโลยี่การออกแบบ ลงไปมากมาย ทำให้ Madone 9 ได้ชื่อว่าเป็น “ Most comfortable aero roadbike” เสือหมอบแอร์โร่ที่ขี่สบายที่สุด
เจาะลึก Trek Madone 9.0 2018
การออกแบบ Madone 9 นำเอาจุดเด่นของรถ Madone 7 ในด้านความแอร์โร่ และรถซีรีส์ Domane ในด้านความสบาย มารวมกันแล้วพัฒนาต่อไปอีก
Madone 9.0 เป็น Madone รุ่นทั้งคันที่ผู้นำเข้า นำเข้ามาทำตลาดในปีนี้ ด้วยความคุ้มค่าและความลงตัวของอะไหล่ ทำให้ Madone 9.0 ได้รับการตอบรับดีมากๆตั้งแต่วันแรกที่ออกสู่ตลาด
Madone 9.0 มี 2 สี ดำด้าน และแดงเงา ซึ่งถ้าดูในเว็ปของ Trek เอง รุ่นนี้จะมีแต่สีดำด้าน เข้าใจว่าสีแดงเงาเป็นสีพิเศษที่ทำมาจำหน่ายแต่ในภูมิภาคนี้
มากับชุดขับ Ultegra R8000 ตัวใหม่ทุกชิ้น ยกเว้นก้ามเบรค Aero
สรุป Madone 9.0 2018
จุดเด่น
- เฟรมตัวท็อป เทคโนโลยี่เพียบ ถูกใจคนชอบความแอร์โร่ แถมมาด้วยความสบายในการขับขี่
- อะไหล่ลงตัว ใช้ได้ยาวๆ แทบไม่ต้องไปอัฟต่อ ชุดขับ ultegra ตัวใหม่ R8000 ดี คุ้มมากๆ พัฒนาจากตัวเดิมเยอะมากๆ
- สีสวย ทั้งแดงเงา และดำด้าน โดยเฉพาะแดงเงา สวย สดมากๆ
- ราคา อันนี้เป็นจุดแข็งงอันหนึ่งที่ทำให้นักปั่นตัดสินใจเลือก Madone เฟรมตัวท็อปในอะไหล่รองท็อป ล้อคาร์บอนขอบสูง ในราคาแค่ แสนต้นๆ ถือว่าหาคู่แข็งยาก
- ใช้แฮนด์และ Stem ได้ทั่วไป ทำให้มีตัวเลือกเยอะ และสามารถติด aerobar เพิ่มได้
จุดต้องพิจรณา
- ตอนเลือกซื้อต้อง sizing ดีๆ เพราะหลักอานของ Madone เป็นหลักอานเฉพาะและมีช่วงปรับสูงต่ำได้ไม่เยอะ ต้องใช้การเลือกหลักอานสั้นหรือยาว(รถจะให้หลักอานสั้นมา) การเลือกซื้อ ควรปรึกษาร้านที่มีการ sizing ให้ลูกค้าได้ดีๆ หรือมีรถให้ลองขึ้นจะดีที่สุด
- ล้อเดิมๆ อาจจะหนักไปนิด ทางเรียบใช้ได้ แต่ขึ้นเขาอาจจะหนักไปหน่อย
Madone 9.0 เหมาะกับใคร
- คนที่อยากได้จักรยานตัวท็อป ชอบรถทรง aero อยากลงทุนไม่ต้องมาก
- คนที่ชอบความเร็ว เน้นปั่นทางเรียบเป็นหลัก ขึ้นเขาบ้างนานๆที
- คนที่ชอบเทคโนโลยี่ ความทันสมัย
ข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็ปไซส์ผู้ผลิด