TREK Madone SL6 และ SL7 มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง สำหรับตัวใหม่ ปี2022?

 

 ท้าวความเป็นมาเล็กน้อยของ Trek Madone

Madone พัฒนามจากคาร์บอนที่เป็นเทคโนโลยี่เฉพาะของ Trek คือ คาร์บอน OCLV (Optimum Compaction, Low Void) ที่ Trek บอกว่าเป็นคาร์บอนที่เบาที่สุด แข็งแรงที่สุด

ชื่อ Madone เริ่มใช้ในปี  2003  ตั้งขึ้นตามชื่อภูเขาที่ซ้อมโปรดของ Lance Armstrong ที่อยู่ทางตอนใต้ของ ฝรั่งเศษ Col de la MadoneLance Armstrong ได้ใช้ Madone คว้าแชมป์ Tour de France และรายการอื่นๆได้มากมาย (ก่อนที่จะโดนยึดแชมป์คืนในภายหลัง) ทำให้นักปั่นทั่วทั้งโลกให้ความสนใจใน Trek และ Madone

ในช่วงปี 2010 ที่วงการผู้ผลิตจักรยานจะมุ่งเน้นพัฒนาที่การลดน้ำหนัก และเพิ่มความ Stiif จนกระทั่ง ในช่วงปี 2012 จึงเริ่มเข้าสู่การพัฒนาสิ่งใหม่ที่เรียกว่า AeroDynamic  (อากาศพลศาสตร์) Trek Madone เองก็เป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนาจักรยานแอร์โร่ในสมัยนั้น

จนกระทั่ง ในปี 2016 Trek เปิดตัว Madone 9 รถแอร์โร่แท้ๆตัวแรกของ Trek ที่ใส่เทคโนโลยี่การออกแบบ ลงไปมากมาย ทำให้ Madone 9 ได้ชื่อว่าเป็น “ Most comfortable aero roadbike” เสือหมอบแอร์โร่ที่ขี่สบายที่สุด

 มาถึงปี 2022 ทาง Trek ก็ได้ออกตัว Madone ใน Series SL6 และ SL7 ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ และความ AeroDynamic มาอย่างเหนือชั้น

Frame SL6 และ SL7 วัสดุทั้งคู่จะเป็นคาร์บอนเกรท OCLV 500 series (Optimum Compaction, Low Void) ที่มีความเบาและแข็งแรง ด้วยเทคโนโลยีการผลิตเฟรมคาร์บอนที่เน้นในด้านการให้คุณสมบัติการขี่ที่สมดุลดีเยี่ยม แข็งแกร่ง น้ำหนักเบา และให้การบิดตัวน้อยเพื่อการส่งกำลังอย่างมีประสิทธิภาพ

ท่อเฟรมรูปทรง KVF ที่ให้ความแอโร่ว์แบบสุดๆ จากการค้นคว้าพัฒนาจนได้ท่ออันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะที่เรียกว่า Kammtail Virtual Foil (KVF) หรือท่อรูปทรงหัวมนท้ายตัด ซึ่งเป็นท่อที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นท่อที่สามารถตัดลมได้ดีที่สุดในทุกองศาที่ลมปะทะ และเป็นที่มาของท่อเฟรมในจักรยานแอโร่ว์หลายๆแบรนด์ในปัจจุบัน

พร้อมเทคโนโลยีซับแรงสะเทือน iso speed เพิ่มความนุ่มนวลและปั่นสบายมากขึ้น

– ระบบ ISO Speed วิศวกรของ Trek ออกแบบท่อนั่งของ Madone ให้มีรูปทรงตัว L ซึ่งแยกเป็นอิสระออกจากท่อบนและท่อนั่งโดยสิ้นเชิง แล้วยึดกันไว้ด้วยจุดหมุน ทำให้ท่อนั่งส่วนนี้สามารถหมุนและขยับตัวได้

ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งระยะของระบบซับแรงสะเทือน IsoSpeed ได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้การขับขี่มีความนุ่มนวล ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด

 

.– แฮนด์ซ่อนสายและการเข้าสายในเฟรมตรงแหวนรองคอเหนือถ้วยคอ เก็บสายตลอดทั้งเฟรม ทำให้รูปลักษณ์ของ Madone ดูเรียบ สวย ซิ่งมากๆ และยังคงความ Aerodynamic ไว้ได้อย่างดี

 

– ระบบดิส์เบรก จาก Shimano Ultegra R8020 ระบบไฮดรอลิกดิส์เบรกที่ให้ความนุ่มนวน และแม่นยำสูง ทำให้สามารถมั่นใจได้ในการหยุดรถ ไม่ว่าจะสถานะการณ์ใดๆก็ตาม

.

– ชุดขับเคลื่อนที่มากับเจ้า Trek Madone SL6 จะเป็น Shimano Ultegra 2×11 Speed ประกอบไปด้วย

ชิฟเตอร์ Shimano Ultegra R8020, 11-speed

สับจาน, ตีนผี Shimano Ultegra R8000, 11-speed

จานหน้า Shimano Ultegra R8000, 50/34 (compact)

โซ่ Shimano Ultegra HG701, 11-speed

เฟือง Shimano Ultegra R8000, 11-30, 11 speed

– ส่วนชุดขับเคลื่อนที่มากับเจ้า Trek Madone SL7 จะเป็น Shimano Ultegra DI2 R8170 2×12 Speed เป็นระบบชุดเกียร์ไฟฟ้า รหัสใหม่ล่าสุดจากทาง Shimano

ที่ให้ความแม่นยำในการเปลี่ยนเกียร์ ที่มีความสมูท และที่สำคัญคือ ความสมาร์ท ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีที่ถูกใส่เพิ่มเข้ามา ทำให้ SL7 เหนือกว่า รุ่นน้องอย่าง SL6 อยู่พอสมควร

– ในส่วนของชุดล้อนั้น ตัว Madone SL6 จะใส่มากับล้อ Bontrager Aeolus comp5 Tubeless Ready ซึ่งเป็นล้ออลูคาร์บอน ขนาดขอบสูง 50mm.

ส่วนตัว Madone SL7 จะมากับชุดล้อฟูลคาร์บอนโอซีแอลวี Bontrager Aeolus Pro5 Tubeless Ready ขนาดขอบสูง 50mm.

แฮนด์ Bontrager Elite Aero

สเต็ม Bontrager Pro 31.8mm  7 degree

– หลักอานคาร์บอนแบบสวม เบาะ Bontrager เบาะที่ให้ความสบายกับผู้ปั่นอย่าง Bontrager Aeolus Comp ราง STEEL กว้าง 145mm.

ข้อแตกต่างระหว่าง Trek Madone SL6 กับ SL7 2022

คงจะสรุปได้ว่า 2 รุ่นนี้ คือพี่น้องที่มีพื้นฐานเดียวกันเกือบทั้งหมด จะมีความแตกต่างกันเพียงไม่กี่อย่าง มีในเรื่องของสี ที่ตัวSL6 จะมีสีออกมาให้เลือกมากว่า ได้แก่ สีแดง ,ขาว/ดำ และเทา/ดำ ส่วน SL7 นั้นจะออกมาเพียงสีเดียวเท่านั้น

ชุดขับเคลื่อน กับชุดล้อ ที่ตัวSL7 จะเป็นชุดขับระบบไฟฟ้า Ultegra DI2 R8170 12speed ชุดล้อที่ใส่มาให้เป็นแบบฟูลคาร์บอน

ในขณะที่รุ่นน้องอย่าง SL6 จะยังคงใช้ระบบเกียร์แบบสายเคเบิล Ultegra R8020 ผสมกับ R8000 ที่เป็น 11speed และใส่ชุดล้อมาให้แบบอลูคาร์บอน เท่านั้นเอง

.

 

สรุป Madone SL6 Disc และ Madone SL7 Disc 2022

จุดเด่น

1. เฟรมตัวท็อป เทคโนโลยี่ที่ถูกอัดแน่นมาให้ ถูกใจคนชอบความแอร์โร่ แถมมาด้วยความสบายในการขับขี่
2. อะไหล่ลงตัว ใช้ได้ยาวๆ แทบไม่ต้องไปอัฟต่อ ชุดขับ ultegra  ดี คุ้มมากๆ ยิ่งตัว SL7 ยิ่งคุ้มค่า เพราะมากับเทคโนโลยีเกียร์ไฟฟ้า Ultegra DI2 12speed ที่ล้ำสมัย
3. สีสันที่สวย เป็นเอกลักษณ์
4. ราคา อันนี้เป็นจุดแข็งงอันหนึ่งที่ทำให้นักปั่นตัดสินใจเลือก Madone เฟรมตัวท็อปในอะไหล่รองท็อป ล้อคาร์บอนขอบสูง ในราคาแค่ แสนต้นๆ ถือว่าหาคู่แข็งยาก
5. ใช้แฮนด์และ Stem ได้ทั่วไป ทำให้มีตัวเลือกเยอะ และสามารถติด aerobar เพิ่มได้

จุดต้องพิจรณา

1. ตอนเลือกซื้อต้อง sizing ดีๆ เพราะหลักอานของ Madone เป็นหลักอานเฉพาะและมีช่วงปรับสูงต่ำได้ไม่เยอะ ต้องใช้การเลือกหลักอานสั้นหรือยาว(รถจะให้หลักอานสั้นมา) การเลือกซื้อ ควรปรึกษาร้านที่มีการ sizing ให้ลูกค้าได้ดีๆ หรือมีรถให้ลองขึ้นจะดีที่สุด
2. ล้อเดิมๆ อาจจะหนักไปนิด ทางเรียบใช้ได้ แต่ขึ้นเขาอาจจะหนักไปหน่อย

Madone SL6 Disc และ Madone SL7 Disc 2022 เหมาะกับใคร?

1. คนที่อยากได้จักรยานตัวท็อป ชอบรถทรง aero อยากลงทุนไม่ต้องมาก
2. คนที่ชอบความเร็ว เน้นปั่นทางเรียบเป็นหลัก ขึ้นเขาบ้างนานๆที
3. คนที่ชอบเทคโนโลยี่ ความทันสมัย

.